เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ

           ในช่วงเวลานี้อาจกล่าวได้ว่าประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่มีความสามารถเกี่ยวกับเรื่องของการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก  ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ประเทศจีนได้มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาธุรกิจภายในประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นมา อีกทั้งยังมีการ พัฒนาธุรกิจและกระจายไปยังประเทศอื่นๆ 

โดยจะเห็นได้ว่าในขณะนี้ธุรกิจของประเทศจีนนั้นมีหลากหลายรูปแบบมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเกี่ยวกับ e-commerce และธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆซึ่งอาจกล่าวได้ว่าประเทศจีนนั้นสามารถที่จะสู้กับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาได้เลย

         อย่างไรก็ตามเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ด้านผู้นำของประเทศจีนได้มีการออกมากล่าวสุนทรพจน์ผ่านทางออนไลน์เกี่ยวกับการเรียกร้องให้ผู้นำประเทศของประเทศต่างๆทั่วโลกมาร่วมแรงร่วมใจกันจับมือกันเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหลังจากที่ได้รับผลกระทบของการระบาดของไวรัสโคโรน่า  โดยทางผู้นำของจีนมองว่าถ้าหากผู้นำของประเทศอะไรประเทศมาจับมือกันร่วมแรงร่วมใจกันในการแก้ไขปัญหาก็จะสามารถทำให้เศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นได้  และยังได้มีการเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจมาด้วยกันสิวิธี

         อย่างแรกเลยทางด้านผู้นำของประเทศจีนมองว่าแต่ละประเทศทั่วโลกนั้นควรจะต้องมีการประสานงานกันเกี่ยวกับเรื่องนโยบายเศรษฐกิจรวมถึงการร่วมแรงร่วมใจส่งเสริมกันเกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจระหว่างประเทศเพื่อที่ธุรกิจระหว่างประเทศจะได้มีการเติบโตอย่างยั่งยืน

          นอกจากนี้ทางด้านผู้นำของประเทศจีนยังมองว่าการที่จะดำเนินธุรกิจร่วมกันระหว่างประเทศนั้นสิ่งที่ต้องทำมากที่สุดก็คือผู้นำของแต่ละประเทศนั้นควรจะต้องเลิกยุติกับอุดมการณ์เก่าๆและไม่มีอคติต่อประเทศอื่นๆ  ควรจะต้องมีการคิดหาวิธีที่จะทำอย่างไรก็ได้ที่จะให้แต่ละประเทศนั้นทำธุรกิจกันอย่างสันติได้อยู่ร่วมกันได้จับมือกันพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจของโลกรวมถึงผู้นำของแต่ละประเทศนั้นควรจะนึกถึงผลประโยชน์ของเศรษฐกิจของโลกเป็นหลักเพื่อที่จะได้ให้แต่ละประเทศนั้นได้รับประโยชน์ร่วมกัน

        สิ่งที่สำคัญก็คือแต่ละประเทศนั้นควรจะต้องมีการส่งเสริม ธุรกิจซึ่งกันและกัน  ร่วมกันที่จะพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าและพยายามที่จะต้องช่วยกันในการลดช่องว่างไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดนั้นพัฒนาด้านเศรษฐกิจไปมากกว่าประเทศอื่นแต่ควรจะต้องช่วยกันพัฒนาไปพร้อมกันแล้วทุกประเทศจะได้เจริญรุ่งเรืองมันเหมือนกันนั่นเอง 

           ซึ่งแน่นอนว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบนี้ค่อนข้างที่จะเป็นไปได้ยากถ้าหากผู้นำประเทศยังไม่คิดจะร่วมแรงร่วมใจกันแต่ถ้าเกิดว่าสามารถทำได้ก็นับได้ว่าวิธีการนี้จะทำให้ทุกประเทศหรือเรียกได้ว่านานาประเทศนั้นด้านเศรษฐกิจไปพร้อมกันและเศรษฐกิจโลกก็จะไม่มีทางประสบปัญหาอย่างที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน 

 

สนับสนุนโดย     ufabet สมัครยังไง

         โดยปกติแล้วในทุกๆเดือนทางด้านกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมีการออกข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการจัดตั้งบริษัทหรือธุรกิจในแต่ละเดือนออกมาให้ทราบว่าเดือนไหนมีการเปิดบริษัทใหม่กี่บริษัทซึ่งโดยปกติแล้วเรามักจะเห็นว่าเพื่อเป็นการพัฒนาธุรกิจของตนเองและประชาชนที่มีกิจการเป็นของตนเองต้องการเป็นเจ้าของกิจการก็มักจะมีการยื่นเอกสารขอเปิดธุรกิจเป็นของตนเอง

โดยในเดือนนั้นมักจะมีคนมายื่นเรื่องขอเปิดกิจการเป็นของตัวเองค่อนข้างเยอะแต่ตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่าจำนวนคนที่มายื่นเรื่องขอเปิดกิจการนั้นลดลงไม่เพียงเท่านั้นยังมีหลายบริษัทมีการยื่นเรื่องขอปิดธุรกิจของตนเองปิดบริษัทลงซึ่งถ้าหากเทียบกันแล้วเมื่อปีพศ 2562 มีจำนวนคนมาเปิดธุรกิจและกิจการใหม่มากกว่าปีพศ2563

เป็นอย่างมากและจำนวนตัวเลขที่มีการคำนวณออกมาในช่วง 6  ปีเดือน ปีเดือนแรกนั้นมียอดการเปิดกิจการลดลงมากถึง 13 เปอร์เซ็นต์ด้วยกันซึ่งทำให้เราสามารถวิเคราะห์ได้เลยว่าด้วยเศรษฐกิจของประเทศไทยตอนนี้มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่ผู้คนไม่กล้าที่จะลงทุนมากนัก

เพราะว่าเมื่อมีการนำเงินมาลงทุนแล้วก็ยังมองไม่เห็นอนาคตว่าธุรกิจจะดำเนินไปในทางทิศไหนได้เพราะขนาดเจ้าของธุรกิจที่มีอยู่เดิมอยู่แล้วซึ่งบางธุรกิจนั้นมีเงินทุนหนาแน่นที่จะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสบายแต่เมื่อมาเจอกับวิกฤตของเศรษฐกิจในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่าก็ทำให้ไหลธุรกิจนั้นล้มไม่เป็นท่าเลยทีเดียวดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงมองว่าในช่วงนี้เป็นช่วงที่ไม่ควรที่จะลงทุนเป็นอย่างมากเพราะสถานการณ์ของการระบาดไวรัสนั้นยังไม่ดีขึ้นถึงแม้ในประเทศไทยเองจะยังควบคุมการระบาดได้แต่ประเทศอื่นๆทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มของการระบาดของไวรัสค่อนข้างเยอะ

และประเทศไทยกับต่างประเทศก็ยังไม่สามารถที่จะมีการส่งออกสินค้าไปขายได้อย่างเสรีเหมือนกับที่อื่นๆที่ผ่านมาเพราะแต่ละประเทศนั้นก็ต้องมีการควบคุมสินค้าส่งออกและสินค้านำเข้าเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงของเชื้อไวรัสที่อาจจะติดมากับตัวสินค้าอีกครั้งประเทศอื่นๆที่ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่าอย่างหนักเจ้าของธุรกิจต่างก็ได้รับผลกระทบดังนั้นการที่จะมีการจับมือกันในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศในช่วงนี้จึงนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากซึ่งทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่เป็นคนไทยยังไม่กล้า

ที่จะนำเงินมาลงทุนให้กับกิจการของตนเองนั่นเองเพราะต้องดูทิศทางก่อนว่าท้ายที่สุดแล้วสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยจะเหมาะสมที่จะสามารถลงทุนแล้วทำให้ธุรกิจมีความก้าวหน้าได้หรือไม่โดยจากการวิเคราะห์เบื้องต้นก็มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจของไทยอาจจะยังไม่ดีขึ้นในช่วงปีนี้และปีหน้าดังนั้นจึงทำให้ปัญหาการเปิดธุรกิจและบริษัทใหม่ๆลดลงอย่างต่อเนื่องนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บแม่

         นับตั้งแต่เริ่มมีการรัฐประหารเกิดขึ้นจนมาถึงประชาชนพากันออกมารวมตัวประท้วงเกี่ยวกับเรื่องของการรัฐประหารของรัฐบาลในขณะนี้ผ่านมานานเกือบเดือนแล้วแต่สถานการณ์การประท้วงในประเทศพม่ายังคงไม่ดีขึ้นและแน่นอนว่าในขณะนี้ส่งผลต่อปัญหาในหลายด้านของประเทศพม่าเป็นอย่างมาก

        ทั้งในเรื่องของการใช้บริการอินเทอร์เน็ตและสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆก็ถูกควบคุมโดยรัฐบาลของประเทศพม่าและกลุ่มผู้เลี้ยงเองก็ไม่พอใจรัฐบาลชุดนี้จึงได้มีการออกมาบอยคอร์ดสินค้าที่มีกองทัพพม่าเป็นหุ้นส่วนอยู่ซึ่งจะเห็นได้ว่าสินค้าในห้างสรรพสินค้าและตามร้านค้าทั่วไปนั้น

        หากประชาชนรู้ว่าสินค้าชนิดนั้นมีทหารเป็นหุ้นส่วนอยู่ก็จะไม่มีการซื้อสินค้าชนิดนั้นเลยจนทำให้ตอนนี้สินค้าบางชนิดเอาออกจากร้านค้าแล้วนอกจากนี้ผลของการประท้วงยังเลวร้ายมากขึ้นไปอีกเมื่อทางด้านธนาคารกลางเองก็ออกมาป่วน ในการประท้วงในประเทศพม่าครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

         เพราะว่าธนาคารกลางได้ออกมาประกาศเป็นที่แน่นอนแล้วว่าประชาชนของพม่านั้นหากใครก็ตามที่ต้องการที่จะกดเงินจากตู้ atm ประชาชนจะกดเงินจากตู้ atm ได้ไม่เกินอาทิตย์ละเพียงแค่ 40,000 บาทเท่านั้น และถ้าหากเป็นการกดเงินออกมาใช้จากรูปแบบของบริษัทก็จะสามารถเบิกเงินได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 4000 บาทเท่านั้นเอง

           ซึ่งทำให้ทางด้านสถานทูตไทยที่อยู่ประจำกรุงประเทศพม่านั้นจำเป็นต้องออกมาเตือนประชาชนคนไทยที่ไปทำธุรกิจที่ประเทศพม่าให้ดูแลสถานการณ์ทางการเงินของตนเองและวางแผนการใช้จ่ายให้มีเพราะว่าจะไม่สามารถถอนเงินได้เสรีเหมือนกับแต่ก่อนแล้วเนื่องจากว่าในขณะนี้ได้มีการควบคุมเกี่ยวกับเรื่องของการใช้จ่ายเงินของประชาชนอยู่นั่นเอง  

      ดังนั้นปัญหาที่พบอยู่ในตอนนี้ก็คือทางด้านกลุ่มบริษัททั้งหลายจะต้องมีการวางแผนเกี่ยวกับเรื่องของการถอนเงินออกมาใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้ดีเพราะว่านอกจากจะต้องเอามาใช้ในเรื่องของการลงทุนการค้าขายสินค้าแล้วยังต้องเอาไว้สำรองสำหรับการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานของตนเองอีกด้วย 

         สำหรับการประกาศของธนาคารกลางเกี่ยวกับเรื่องของเงื่อนไขการกดเงินออกมาในแต่ละสัปดาห์นั้นเริ่มมีการประกาศออกมาได้ไม่นานนี้และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เดือนมีนาคมปีพศ 2564 นี้ทันที  

           และจากสถานการณ์การควบคุมเรื่องของการกดเงินนี้อาจจะส่งผลเกี่ยวกับเรื่องของระบบเศรษฐกิจในประเทศพม่าเป็นอย่างมากเพราะว่าเมื่อมีการควบคุมเรื่องของการใช้เงินการที่จะนำเงินไปลงทุนก็จะได้รับผลกระทบนั่นเอง

      นอกจากนี้เนื่องจากมีการควบคุมเกี่ยวกับเรื่องของการกดเงินทำให้ประชาชนนั้นเริ่มออกมากดเงินกันเป็นจำนวนมากและมีการต่อแถวเพื่อรอกดเงินกันเยอะมากทำให้ในแต่ละวันนั้นเงินในตู้ atm หมดเร็วมากด้วยเช่นกัน 

 

 

สนับสนุนโดย    ufabet บนมือถือ