ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังต้องควบคุมปริมาณแร่ธาตุในร่างกายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะโพแทสเซียม
ซึ่งหากมีระดับสูงเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหัวใจวาย ผลไม้บางชนิดที่มีโพแทสเซียมสูงควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ดังนี้
- ทุเรียน
ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูงมาก และยังมีปริมาณน้ำตาลสูง ผู้ป่วยโรคไตวายควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนทางไตและหัวใจ
- ขนุน
ขนุนเป็นผลไม้อีกชนิดที่มีโพแทสเซียมในปริมาณสูง แม้ว่าจะมีรสชาติหวานอร่อย แต่สำหรับผู้ป่วยโรคไต การบริโภคขนุนอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- มะม่วงสุก
มะม่วงสุก โดยเฉพาะพันธุ์ที่มีรสหวานจัด เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ มีโพแทสเซียมสูง อีกทั้งยังมีน้ำตาลมาก ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ระดับโพแทสเซียมเกินมาตรฐาน
- มะละกอสุก
แม้ว่ามะละกอสุกจะมีประโยชน์ต่อการย่อยอาหาร แต่ก็มีโพแทสเซียมสูงในปริมาณที่ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไต หากบริโภคมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมเกิน
- ฝรั่ง
ฝรั่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและวิตามินซี แม้ว่าจะเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงหรือบริโภคในปริมาณที่จำกัด
- แก้วมังกร
แก้วมังกรมีโพแทสเซียมสูงและยังมีน้ำในปริมาณมาก การบริโภคแก้วมังกรอาจทำให้ผู้ป่วยโรคไตเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโพแทสเซียมเกิน
- มะเฟือง
มะเฟืองเป็นผลไม้ที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคไต เพราะนอกจากจะมีโพแทสเซียมสูงแล้ว ยังมีสารออกซาเลตที่สามารถทำให้ไตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- กระท้อน
กระท้อนมีโพแทสเซียมสูงและมีรสเปรี้ยวอมหวานที่อาจทำให้ผู้ป่วยไตเสี่ยงต่อการเกิดอาการแทรกซ้อนทางไต
- มะยมชิด
มะยมชิดหรือผลไม้ในตระกูลมะยมมีโพแทสเซียมสูงและกรดในปริมาณมาก ซึ่งไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไตที่ต้องควบคุมระดับแร่ธาตุในเลือด
10. อะโวคาโด
อะโวคาโดถือเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่เข้มข้น นอกจากนี้ยังมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ แต่ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไตที่ต้องจำกัดโพแทสเซียม
11. กล้วย
กล้วยเป็นผลไม้ที่มีปริมาณโพแทสเซียมสูงมาก โดยเฉพาะกล้วยหอม กล้วยน้ำว้า หรือกล้วยไข่ การบริโภคกล้วยแม้ในปริมาณน้อยก็อาจเพิ่มระดับโพแทสเซียมในเลือดได้
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคไต
ผู้ป่วยโรคไตควรเลือกบริโภคผลไม้ที่มีโพแทสเซียมต่ำ เช่น แอปเปิล องุ่น สับปะรด และควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อปรับการบริโภคอาหารให้เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของตนเอง การควบคุมอาหารอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น.
สนับสนุนเนื้อหาโดย huaydeeplus