เศรษฐกิจต้มยำกุ้งของไทย เป็นหนึ่งในวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย วิกฤตินี้เกิดขึ้นในช่วงปี 2540-2541 โดยเริ่มจากการล่มสลายของค่าเงินบาทที่นำไปสู่ปัญหาทางการเงินและเศรษฐกิจในระดับประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เศรษฐกิจต้มยำกุ้งมีลักษณะเป็นวิกฤติทางการเงินที่เกิดจากการสะสมของปัจจัยหลายอย่างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้แก่:
- การเปิดเสรีทางการเงิน: ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และต้นทศวรรษ 1990 ประเทศไทยได้เปิดเสรีทางการเงิน ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ และลดข้อจำกัดในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาล
- การขยายตัวของสินเชื่อและหนี้: การไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศทำให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทต่างๆ สามารถกู้เงินได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของสินเชื่อและการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น โดยไม่มีการคำนึงถึงความเสี่ยงเพียงพอ
- การเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ส่งผลให้ราคาทรัพย์สินพุ่งสูงเกินจริง และเกิดภาวะฟองสบู่
- การจัดการทางการเงินไม่เหมาะสม: ค่าเงินบาทถูกผูกกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลานั้น ทำให้มีการรักษาอัตราแลกเปลี่ยนคงที่แม้เศรษฐกิจเริ่มมีปัญหา ส่งผลให้การขาดดุลการค้ามีมากขึ้นและทุนสำรองเงินตราต่างประเทศลดลง
วิกฤติเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เมื่อประเทศไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาท การลอยตัวนี้ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้บริษัทและธนาคารที่มีหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศต้องแบกรับภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และหลายองค์กรต้องปิดตัวลงหรือประกาศล้มละลาย
วิกฤติเศรษฐกิจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยหดตัวอย่างรุนแรง GDP ลดลงหลายปีติดต่อกัน และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยตกลงอย่างรุนแรง และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เคยรุ่งเรืองกลับเผชิญกับการล่มสลาย
การแก้ไขปัญหา
รัฐบาลไทยในขณะนั้นได้ร่วมมือกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงินและการปฏิรูปเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัดทางการเงินและปรับโครงสร้างระบบธนาคารใหม่ มาตรการที่ใช้ได้แก่:
- การฟื้นฟูระบบธนาคาร: รัฐบาลได้ปฏิรูปและฟื้นฟูระบบธนาคาร โดยการจัดตั้งหน่วยงานบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อจัดการหนี้เสีย (NPL) ในระบบธนาคาร
- การปฏิรูปทางการเงิน*: การปรับนโยบายทางการเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน เช่น การเพิ่มทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และการปรับอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- การส่งเสริมการส่งออก: ประเทศไทยได้หันมาส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก
แม้วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่การปฏิรูปและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและมีเสถียรภาพในระยะยาว
สนับสนุนเนื้อหาโดย ชุดตรวจ hiv