ธุรกิจ การทำธุรกิจมีมากมายหลายประเภท แต่ที่จะมายกตัวอย่างวันนี้คือธุรกิจคาร์แคร์ ธุรกิจคาร์แคร์คือการทำความสะอาดดูดฝุ่นหรือทำให้รถยนต์หรือยานพหนะที่เราใช้ในชีวิตประจำวันสะอาดขึ้น ธุรกิจนี้เหมาะมากสำหรับประเทศไทยที่มีการใช้ยาพหนะเยอะเพราะผู้คนส่วนมากจะไม่ค่อยมีเวลาล้างรถการเข้ามาล้างที่คาร์แคร์ทำให้สะดวกสบายขึ้น
สามารถนำรถมาจอดทิ้งไว้แล้วเวลาว่างก็ไปทำอย่างอื่นได้อีกด้วย เพราะรถยนต์เป็นรถที่คันใหญ่ ใช้เวลาในการล้างนานมาก ต้องล้างทั้งข้างนอกและต้องดูดฝุ่นข้างในอีก ทำให้เสียเวลามากถ้าบางคนล้างไม่ดีล้างแบบลวกๆก็ไม่สะอาด และน้ำที่ล้างก็ไม่แรงเหมือนคาร์แคร์ ทำให้สิ่งสกปกออกไม่หมด
เพราะฉนั้นการล้างรถที่คาร์แคร์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง และราคาที่ล้างก็ไม่ได้แพงเกินไปสำหรับการความสะอาดของรถที่เหมือนออกใหม่ขนาดนี้ ราคาแต่ละร้านจะใหม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ร้านนั้นๆนำมาใช้ในการทำความสะอาด อาทิเช่น น้ำยาที่ใช้ขัดสีเพราะเกรดน้ำยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับราคาที่ซื้อมา ราคาถูกก็จะเคลือบสีไม่ค่อยเงาและเคลือบได้ไม่นาน ส่วนถ้าราคาแพงหน่อยก็จะเคลือบติดนานและได้สีที่เงาฉ่ำตาแตก โฟมที่ใช้ล้างก็มีหลายเกรดขึ้นอยู่กับราคาที่เราซื้อมาใช้ถ้าราคาแพงหน่อย
ก็จะขัดสิ่งสกปกได้ง่ายไม่ต้องขัดแรง เพราะถ้าเราขัดสิ่งสกปกแรงอาจทำให้รถที่นำมาล้างเกิดรอยขีดข่วนขึ้นตามตัวรถ เพราะนั้นเราควรใช้โฟมที่ดีและมีราคาแพงหน่อยจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากและลูกค้าก็จะมาล้างกับเราบ่อยๆ น้ำยาขัดยางก็ควรใช้อย่างดีเพราะจะได้ทำให้ยางใหม่และอยู่ติดกับยางไปนานๆ ถ้าราคาถูกจะน้ำยาติดยางยากเพราะยางของรถ
แต่ละคันไม่เหมือนกันรถบางคันอาจจะใช้งานน้อยหรือพึ่งเปลี่ยนมาทำให้น้ำยาติดง่ายและอยู่ได้นาน แต่บางคันที่ยางใช้งานมานานหรือยางหมดสภาพแล้วไม่ยอมเปลี่ยนก็จะติดยากหน่อย ราคาของการล้างรถยนต์หนึ่งคันขั้นต่ำจะอยู่ที่หนึ่งร้อยแปดสิบบาทถึงสามร้อยบาท ไม่รวมเคลือบสีอย่างดี เพราะเคลือบสีอย่างดีต้องเพิ่มอีกสามร้อยบาท ส่วนรถมอเตอร์ไซด์อยู่ที่ราคาคันละหนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยห้าสิบบาท ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ยืนยาวถ้าเราสามารถบริหารให้ดี และการบริการที่ดีลูกค้าที่เคยมาใช้บริการก็จะกลับมาล้างอีกครั้ง
สนับสนุนโดย ทางเข้า Ufabet168