เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ

โครงการรีสตาร์ทไทยแลนด์  ในขณะนี้กลุ่มบริษัทปตท. ได้มีโครงการใหม่ ขึ้นมาภายใต้ชื่อโครงการ Restart Thailand โดยโครงการนี้จะเป็นการสนับสนุนการจ้างงานซึ่งในขณะนี้ทางบริษัทปตทได้มีการเปิดรับสมัครงาน

สำหรับเด็กที่จบใหม่ไม่ว่าจะเป็นวุฒิระดับชั้น ปวช. รวมถึงปวส.. และปริญญาตรีเลยทีเดียว  สำหรับบริษัทปตทนั้นมีการเปิดรับสมัครพนักงานใหม่จำนวนทั้งสิ้น 25000 คน โดยจะมีการเปิดรับสมัครและสัมภาษณ์พร้อมทั้งให้ปฏิบัติงานจริงได้ภายในปีพ.ศ. 2564 นี้เลย

         สำหรับโครงการที่ปตท.ได้มีการจัดทำขึ้นมานั้นก็เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมการดำเนินธุรกิจและเศรษฐกิจของไทยให้สามารถดำเนินต่อไปได้ทางบริษัทปตท. ต้องการสร้างโอกาสให้ประชาชนนั้นได้มีอาชีพและมีงานทำรวมถึงมีรายได้เลี้ยงตัวเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาการระบาดของไวรัสโควิตอยู่แบบนี้ 

        อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการ Restart Thailand นั้นเมื่อมีการเข้ามาสมัครเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว

ผู้ที่สมัครและสามารถผ่านการคัดเลือกจะได้รับการว่าจ้างการทำงานภายใต้การกำหนดระยะเวลาในการทำงานมีการเซ็นเอกสารรับรองอยู่ที่ 1 ปี  โดยคนที่ผ่านเข้ารับเลือกโครงการ Restart Thailand นี้จะต้องออกปฏิบัติงานนอกพื้นที่เพราะการรับพนักงานเข้ามาทำงานในโครงการนี้นั้นจะให้พนักงานเข้าไปดูแลและพัฒนาชุมชนตามท้องถิ่นของจังหวัดต่างต่าง

          ซึ่งทางด้านปตทนั้นต้องการที่จะพัฒนาชุมชนประมาณ 3 ด้านด้วยกันโดยด้านแรกนั้นปตท.อยากจะให้ชุมชนนั้นเข้าไปพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องของระบบการเรียนการสอนการศึกษาของเยาวชนดังนั้นพนักงานที่ถูกรับเข้ามาในโครงการ Restart จะต้องเข้าไปช่วยสอนวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษรวมถึงวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนในชุมชนที่ทางปตทได้มีการเตรียมไว้นอกจากนี้ยังต้องการให้พัฒนาเรื่องของสิ่งแวดล้อม

         ดังนั้นกลุ่มคนที่จะถูกรับเข้าไปทำงานนั้นจะมีตำแหน่งหน้าที่ในการที่จะไปเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชนตามจังหวัดต่างๆซึ่งขณะนี้ปตท.มีการวางแผนเอาไว้อยู่ที่ประมาณ 60 จังหวัดด้วยกัน

นอกจากนี้ยังต้องมีการพัฒนาศักยภาพชุมชนนั่นก็คือการพัฒนาสินค้าและบริการในจังหวัดที่เปิดเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวและไปช่วยแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของการตลาดทางออนไลน์ให้กับคนในชุมชนเพื่อให้สามารถมีรายได้เข้าชุมชนนั้นนั้นได้ซึ่งแน่นอนว่าโครงการนี้นั้นทางปตท.หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะประสบความสำเร็จ

    โดยโครงการนี้จะมีการเริ่มปฏิบัติการเพื่อเตรียมความพร้อมรอโอกาสที่ประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาได้และเศรษฐกิจของไทยกับมาเฟียฟูโครงการนี้ก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน   เพราะโครงการนี้เป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีให้กับคนในชุมชนตามต่างจังหวัดนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.   ufabet ฝาก-ถอน เอง

        การประกาศปิดร้านนวด    จากการที่ กทม. ได้มีการออกมาตรการขอความร่วมมือจากทางด้านผู้ประกอบการร้านนวด   ให้ร้านนวดทุกร้านที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลนั้นปิดให้บริการเป็นการชั่วคราวไปก่อนทำให้ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดนั้นต้องออกมาเรียกร้องให้ทาง กทม. เข้ามาเยียวยาช่วยเหลือ

  เนื่องจากนับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19   เมื่อต้นปีพศ2563 ที่ผ่านมาผู้ประกอบการร้านนวดก็ได้รับการเรียกร้องจากทางกทม.ขอความร่วมมือให้ปิดกิจการเป็นการชั่วคราวไปก่อนมาแล้วหลายครั้ง

           

ซึ่งแน่นอนว่าช่วงที่ทางผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการที่จะปิดร้านนวดของตนเอง

พวกเขาก็จะขาดรายได้และพวกเขาให้ความร่วมมือมาแล้วหลายครั้งซึ่งนั่นหมายถึงว่าพวกเขาได้มีการแบกรับเกี่ยวกับเรื่องของภาระค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจ้างงานพนักงานหรือแม้แต่ค่าเช่าที่เอาไว้แล้วหลายครั้งดังนั้นในการขอความร่วมมือจากทางกทมครั้งที่ 3

ที่มีการระบาดของไวรัสโควิค-19 และรอบ 3 เข้ามานี้ทางด้านกลุ่มผู้ประกอบการจึงได้มีการติดต่อกทม.เพื่อให้ทางกทมนั้นช่วยเหลือเยียวยา

     เนื่องจากว่ากลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดนั้นไม่สามารถที่จะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้วนั่นเองเพราะในขณะนี้แต่ละร้านนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ขั้นต่ำ หนึ่งหมื่น บาทหรือถ้าเกิดว่าเป็นร้านนวดขนาดใหญ่ก็มีค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ถึงสามแสนบาทเลยทีเดียว 

      อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีนโนบายออกมาจากทางด้านกทม.เรียกร้องให้กลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดไม่ว่าจะเป็นนวดเพื่อสุขภาพหรือนวดแผนไทยให้ปิดกิจการเป็นการชั่วคราวไปก่อนนั้น

ในขณะนี้ได้มีการรวมตัวกันของเจ้าของร้านนวดเพื่อยื่นเอกสารขอให้ทางกทมทบทวนเกี่ยวกับเรื่องการขอปิดสถานประกอบการร้านนวดเนื่องจากว่าพวกเขานั้นได้รับผลกระทบอย่างหนัก

         ซึ่งในขณะนี้ในกรุงเทพฯอย่างเดียวนั้นมีผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการนวดนั้นมากกว่า 1000 แห่งเลยทีเดียวโดยทางด้านผู้ประกอบการมองว่าถ้าหากให้เขาปิดธุรกิจของเขาไปอีกเป็นครั้งที่ 3 นั้นจะทำให้ธุรกิจของเขานั้นไม่มีเงินหมุนเวียนมาเป็นค่าใช้จ่ายและแทนที่จะเป็นการปิดกิจการชั่วคราวธุรกิจร้านนวดของพวกเขาอาจจะเป็นการถาวรได้เลยทีเดียว

         อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าของธุรกิจยืนยันว่าพวกเขาจะมีการปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการที่รัฐบาลออกมาอย่างเคร่งครัดเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลเรื่องของการระบาดของไวรัสโควิค-19   นอกจากนี้ทางด้านเจ้าของร้านนวดทั้งหลายยังได้มีการขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ

เรื่องของภาระค่าใช้จ่ายที่ตอนนี้ทางร้านต้องเสียค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนอยู่ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าที่หรือแม้แต่ค่าน้ำค่าไฟรวมถึงค่าจ้างพนักงานเพราะในขณะนี้ค่าเช่าที่นั่นเจ้าของที่ไม่ได้มีการลดค่าเช่าถึงแม้ว่าสถานการณ์ของเศรษฐกิจของประเทศไทยจะแย่ลงก็ตาม 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

          โรงงานแห่งหนึ่งที่ประจวบฯ ถูกแฉ   มีหญิงสาวคนหนึ่งเธอได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์โดยระบุว่าโรงงานแห่งนี้เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการตรวจพบว่าพนักงานที่ทำงานอยู่ในโรงงานดังกล่าวมีคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ประมาณ 53 คนนอกจากนี้ภายในโรงงานดังกล่าวนั้นยังมีพนักงานอีกกว่า 500 คนที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงและถูกสั่งให้กับตัวเป็นการชั่วคราวเพื่อรอดูสถานการณ์

        อย่างไรก็ตามหญิงสาวคนดังกล่าวระบุว่าทางด้านเจ้าของโรงงานนั้นไม่ได้ให้ความสำคัญต่อสุขภาพอนามัยของคนในชุมชนเพราะหลังจากที่ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขได้ลงมาตรวจพื้นที่และพบว่ามีคนงานติดเชื้อไวรัสโควิช- ทางโรงงานยังคงเปิดให้บริการโรงงานตามปกติไม่มีการฆ่าเชื้อโรคในโรงงานนอกจากนี้ยังคงให้พนักงานทำงานตามปกติโดยที่ไม่นึกถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะมีการระบาดของไวรัส covid-19  ออกไป

 

   ซึ่งในขณะนี้คนในพื้นที่นั้นมีทั้งเด็กและคนแก่ที่อยู่ที่บ้าน

ถ้าหากว่าพนักงานกว่า 500 คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงยังคงเดินทางไปทำงานและกลับมาบ้านโดยที่ไม่มีการกักตัวก็อาจจะทำให้เด็กและคนแก่นั้นติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เธอจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาลงดูพื้นที่ดังกล่าวและมาช่วยประสานงานกับเจ้าของโรงงานให้ช่วยปิดโรงงานเป็นการชั่วคราวไปก่อน 

        อย่างไรก็ตามตามกฎที่ทาง ศบค . มีการออกกฎมาในตอนนี้ก็คือถ้าหากว่าบริษัทหรือโรงไหนที่ตรวจพบว่ามีพนักงานติดเชื้อไวรัส covid และได้รับการแจ้งจากกระทรวงสาธารณสุขให้ปิดกิจการชั่วคราวก่อนจะต้องมีการดำเนินการตามที่กระทรวงสาธารณสุขแจ้งหากว่ามีที่ไหนฝ่าฝืนยังคงมีการเปิดทำงานตามปกติจะมีความผิดตามกฎหมายและจะถูกดำเนินคดีได้

       สำหรับเรื่องนี้คงต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงาน ศบค. เข้าไปตรวจสอบโรงงานดังกล่าวว่ามีการทำผิดเงื่อนไขที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งไปหรือไม่เพราะถ้าหากมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19  จริงก็จำเป็นต้องมีการปิดโรงงานชั่วคราวและกักตัวคนงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 

 

       สำหรับเรื่องนี้โรงงานเองก็จะต้องมีการรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19

นั้นจะมีการระบาดไปทั่วจังหวัดจึงจำเป็นที่จะต้องมีการปิดโรงงานเป็นการชั่วคราวและทำความสะอาดโรงงานด้วยการพ่นยาฆ่าเชื้อพร้อมทั้งต้องนำคนงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้นไปตรวจร่างกายหาเชื้อไวรัส covid และต้องกักตัวก่อนซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือโรงงานจะได้รับผลกระทบอย่างมากเพราะการกักตัวนั้นอย่างน้อยก็ต้อง 14 วัน 

           ซึ่งจะทำให้โรงงานขาดรายได้เป็นจำนวนมหาศาลเลยทีเดียวสำหรับโรงงานที่มีการผลิตสินค้าออกไปจำหน่ายโดยมีลูกค้ารอรับสินค้าอยู่เพราะถ้าหากส่งสินค้าล่าช้านั่นหมายถึงว่าจะถูกเรียกเก็บค่าปรับแต่อย่างไรก็ตามแต่ถึงแม้ว่าโรงงานจะได้รับผลกระทบแต่ก็จำเป็นที่จะต้องนึกถึงส่วนรวมเป็นหลักเพราะเมื่อใดก็ตามที่เราสามารถกำจัดไวรัสโควิด-19 ออกไปได้ก็จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตมาผลิตสินค้าส่งไปขายได้ตามปกตินั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้