หากต้องการลงทุนทำคาเฟ่ ควรคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง

หากต้องการลงทุนทำคาเฟ่ โดยต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด ควรคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง

การลงทุนทำคาเฟ่ให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุดต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยตั้งแต่การวางแผนธุรกิจไปจนถึงการดำเนินการจริง การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มโอกาสความสำเร็จของธุรกิจได้

  1. การวางแผนธุรกิจ: ก่อนเริ่มลงทุนควรมีการวางแผนธุรกิจอย่างละเอียด ควรวิเคราะห์ตลาดและลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพื่อเข้าใจความต้องการและแนวโน้มของตลาดในพื้นที่นั้น ๆ การทำแผนธุรกิจยังช่วยให้คุณทราบถึงต้นทุนเริ่มต้น ค่าบริหารจัดการ และกำไรที่คาดหวัง
  2. การเลือกทำเลที่ตั้ง: ทำเลที่ตั้งของคาเฟ่มีผลต่อทั้งต้นทุนและรายได้ การเลือกทำเลที่ค่าเช่าไม่แพง แต่ยังคงมีลูกค้าผ่านไปมาเพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญ นอกจากนี้ ควรพิจารณาทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ใกล้เคียง เช่น การคมนาคมที่สะดวก หรือพื้นที่จอดรถฟรี ซึ่งอาจช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
  3. การออกแบบและตกแต่ง: ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งภายในคาเฟ่สามารถเป็นส่วนใหญ่ของงบประมาณได้ หากต้องการประหยัด ควรพิจารณาเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพแต่ราคาไม่สูง หรือใช้ของมือสองที่ยังคงมีสภาพดี การออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีสไตล์ก็สามารถสร้างบรรยากาศที่ดึงดูดลูกค้าได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาก
  4. การจัดหาอุปกรณ์และวัตถุดิบ: การเลือกซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม หรือหากเป็นไปได้ อาจพิจารณาเช่าอุปกรณ์ที่จำเป็นในช่วงเริ่มต้นเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ การทำสัญญากับซัพพลายเออร์ในระยะยาวอาจช่วยให้ได้ส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษที่ช่วยลดต้นทุน
  5. การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล: การจัดการพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุนค่าแรง การจ้างพนักงานในจำนวนที่เหมาะสม และการฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะหลายด้านสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานเพิ่มเติม
  6. การใช้เทคโนโลยี: การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้ระบบ POS ที่สามารถจัดการสต็อก การเงิน และลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดข้อผิดพลาดและประหยัดเวลาการทำงานของพนักงาน
  7. การตลาดและการโฆษณา: การทำการตลาดออนไลน์ เช่น การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมทคาเฟ่ เป็นวิธีที่มีต้นทุนต่ำแต่ได้ผลดี หากมีการวางแผนการตลาดที่ดีจะช่วยดึงดูดลูกค้าโดยไม่ต้องลงทุนมากในโฆษณาแบบดั้งเดิม
  8. การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายประจำ: ควรตรวจสอบและควบคุมค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าเช่า อย่างใกล้ชิด การใช้พลังงานอย่างประหยัด การเลือกเวลาเปิด-ปิดร้านให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้

การลงทุนทำคาเฟ่ให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากมี  Holiday Palace สมัคร     การวางแผนและบริหารจัดการอย่างรอบคอบ การลดต้นทุนในทุก ๆ ด้านจะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จและสามารถสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

Shopee Affiliate คือ โปรแกรมการตลาดแบบพันธมิตร

Shopee Affiliate คือ โปรแกรมการตลาดแบบพันธมิตร (Affiliate Marketing) ของ Shopee

ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โปรแกรมนี้เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปหรือเจ้าของเว็บไซต์/บล็อกเกอร์สามารถหารายได้โดยการโปรโมตสินค้าจาก Shopee ผ่านลิงก์พิเศษที่เรียกว่า “Affiliate Link” ซึ่งหากมีผู้ใช้คลิกลิงก์นั้นและทำการซื้อสินค้าผ่าน Shopee คุณจะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามที่กำหนด

การเริ่มต้นในการเข้าร่วมโปรแกรม Shopee Affiliate

  1. สมัครสมาชิก: คุณต้องเริ่มต้นด้วยการสมัครเข้าร่วมโปรแกรม Shopee Affiliate โดยไปที่เว็บไซต์ของ Shopee Affiliate และกรอกข้อมูลที่จำเป็น จากนั้นทีมงานของ Shopee จะทำการตรวจสอบและอนุมัติการสมัครของคุณ
  2. สร้าง Affiliate Link: หลังจากที่คุณได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมโปรแกรม คุณสามารถเริ่มสร้างลิงก์พันธมิตรได้ทันที โดยคุณสามารถเลือกสินค้าจาก Shopee ที่คุณต้องการโปรโมต และสร้างลิงก์พิเศษที่มีรหัสพันธมิตรของคุณ จากนั้นสามารถนำลิงก์นี้ไปโพสต์บนเว็บไซต์ บล็อก โซเชียลมีเดีย หรือช่องทางอื่น ๆ ของคุณได้
  3. โปรโมตสินค้า เมื่อคุณมีลิงก์พันธมิตรแล้ว คุณสามารถโปรโมตสินค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่คุณมี เช่น โซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram, Twitter), บล็อก, YouTube, หรือแม้กระทั่งส่งทางอีเมล หากผู้ใช้คลิกลิงก์และทำการซื้อสินค้าจาก Shopee คุณจะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามอัตราที่กำหนด
  4. รับค่าคอมมิชชั่น: ค่าคอมมิชชั่นที่คุณจะได้รับจะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินค้าและโปรโมชันที่ Shopee มีในขณะนั้น โดยปกติแล้วค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ในช่วง 2% ถึง 10% ของราคาสินค้าที่ขายได้ เมื่อยอดขายได้รับการยืนยัน คุณจะได้รับค่าคอมมิชชั่นในบัญชีที่คุณเชื่อมโยงไว้กับ Shopee Affiliate

การหารายได้จาก Shopee Affiliate นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความสามารถในการโปรโมตสินค้า

ความเข้าใจในตลาดเป้าหมาย และการเลือกสินค้าที่ได้รับความนิยม หากคุณมีฐานผู้ติดตามที่แข็งแกร่งในโซเชียลมีเดียหรือมีเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมาก โอกาสที่จะประสบความสำเร็จและได้รับรายได้จากโปรแกรมนี้ก็จะสูงขึ้น

  1. ช่องทางการโปรโมต หากคุณมีช่องทางการโปรโมตที่หลากหลายและมีผู้ติดตามที่สนใจสินค้าบน Shopee โอกาสในการสร้างรายได้ก็จะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหากคุณสามารถเชื่อมโยงสินค้าที่น่าสนใจกับกลุ่มเป้าหมายได้ดี
  2. การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ: การสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจสามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้คลิกที่ลิงก์พันธมิตรและทำการซื้อสินค้าได้มากขึ้น เช่น การรีวิวสินค้า การทำวิดีโอสาธิตการใช้งาน หรือการเขียนบล็อกเกี่ยวกับสินค้า
  3. การเลือกสินค้า การเลือกสินค้าที่ได้รับความนิยมและมีความต้องการสูงในตลาดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขายและการรับค่าคอมมิชชั่นสูงขึ้น คุณควรทำการวิจัยตลาดและค้นหาสินค้าที่มีศักยภาพในการขายสูง
  4. การติดตามและปรับปรุง: การติดตามผลการโปรโมตและการปรับปรุงวิธีการของคุณอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและรายได้จาก Shopee Affiliate คุณสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อดูว่าลิงก์ไหนทำงานได้ดีและปรับกลยุทธ์ตามนั้น

Shopee Affiliate เป็นโปรแกรมที่ให้โอกาสในการหารายได้แบบออนไลน์ โดยการโปรโมตสินค้าบน Shopee หากคุณมีการวางแผนและใช้กลยุทธ์การตลาดที่ดี โอกาสในการสร้างรายได้จากโปรแกรมนี้ก็จะสูงขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในโปรแกรมนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเลือกสินค้าและการโปรโมตอย่างมีประสิทธิภาพ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    bk8

เศรษฐกิจของประเทศไทยในยุค 80

ในยุค 1980 เศรษฐกิจของประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงที่เรียกว่า “การเติบโตทางเศรษฐกิจ” อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

นับเป็นยุคสำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยหลัก ซึ่งทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  1. การพัฒนาอุตสาหกรรมและการลงทุนจากต่างประเทศ:

การเติบโตทางเศรษฐกิจในยุค 1980 ของประเทศไทยนั้น มาจากการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ภาครัฐได้ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศผ่านนโยบายที่เอื้ออำนวย เช่น การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม การลดภาษี และการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทำให้มีการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรปเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก การลงทุนเหล่านี้ได้กระตุ้นการขยายตัวของภาคการผลิตและการส่งออก ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยในยุคนั้น

  1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน:

รัฐบาลไทยในยุค 1980 ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางด้านคมนาคม เช่น การสร้างถนน ทางด่วน และสนามบิน รวมถึงการพัฒนาแหล่งพลังงานไฟฟ้าและน้ำมัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและบริการ

  1. การขยายตัวของภาคการเกษตร:

ถึงแม้ว่าภาคอุตสาหกรรมจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ภาคการเกษตรยังคงเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยในยุค 1980 มีการพัฒนาการเกษตรเชิงพาณิชย์มากขึ้น เช่น การปลูกพืชเพื่อการส่งออก ได้แก่ ข้าว ยางพารา และผลไม้ต่าง ๆ การพัฒนาภาคการเกษตรทำให้รายได้ของประชาชนในชนบทเพิ่มขึ้น และช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจระหว่างเมืองและชนบท

  1. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม:

การเติบโตทางเศรษฐกิจในยุค 1980 ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมอย่างมากมาย ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การขยายตัวของเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ ทำให้เกิดการย้ายถิ่นฐานจากชนบทเข้าสู่เมืองอย่างมากมาย นอกจากนี้ การเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านการบริโภค การแต่งกาย และรูปแบบการใช้ชีวิต

  1. การเติบโตของภาคบริการ:

นอกจากภาคอุตสาหกรรมและการเกษตรแล้ว ภาคบริการก็เติบโตขึ้นอย่างมากในยุค 1980 มีการขยายตัวของธุรกิจการท่องเที่ยว การบริการทางการเงิน และการค้าปลีก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

 

  1. การจัดการเศรษฐกิจมหภาค:

รัฐบาลไทยในยุคนี้ได้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่มีเสถียรภาพ การบริหารจัดการการคลัง การเงิน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมอัตราเงินเฟ้อและการรักษาอัตราแลกเปลี่ยนที่เสถียรภาพทำให้เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน

บทสรุป

เศรษฐกิจของประเทศไทยในยุค 1980 ได้รับการพัฒนาไปในทางที่ดีอย่างชัดเจน การเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากการพัฒนาอุตสาหกรรม การลงทุนจากต่างประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

และการขยายตัวของภาคการเกษตรและบริการ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในยุค 1980 ได้สร้างรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยในยุคต่อ ๆ มา

 

ได้รับการสนับสนุนเนื้อหานี้โดย    ole777 ทางเข้า

ผลกระทบการปัญหาเงินเฟ้อในประเทศลาว 

สำหรับใครที่ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเทศลาวในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าประเทศลาวกำลังประสบกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่พบมากที่สุดในตอนนี้ก็คือปัญหาเงินเฟ้อในประเทศลาวนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันประเทศลาวมีการใช้สกุลเงินเป็นของตนเองนั่นก็คือสกุลเงินกีบแต่ปัจจุบันด้วยปัญหาภาวะเงินเฟ้อทำให้เงินกีบแทบจะไม่มีค่าอะไรแล้ว 

สำหรับปัญหาเงินเฟ้อของประเทศลาวในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายสาเหตุ และการที่จะแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อในประเทศลาวนั้นค่อนข้างแก้ไขได้อย่างยากลำบาก

ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อในประเทศลาวว่าลาวจะต้องเผชิญกับสถานการณ์อย่างไรบ้าง 

สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศลาวที่กำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อมีหลายสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดปัญหานี้ ได้แก่:

  1. นโยบายทางเศรษฐกิจและการเงินที่ไม่เพียงพอ: รัฐบาลลาวประสบปัญหาในการบริหารจัดการงบประมาณและการเงิน ทำให้เกิดการขาดดุลการค้าระหว่างประเทศ
  2. การลดค่าเงินกีบ: ค่าเงินกีบที่ลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศ ทำให้ราคาสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศมีราคาแพงขึ้น
  3. ราคาน้ำมันและสินค้าพื้นฐาน: ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและขนส่งสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าต่างๆ ในประเทศลาวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
  4. ปัญหาภัยพิบัติธรรมชาติ: ลาวเป็นประเทศที่ประสบภัยพิบัติธรรมชาติบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ทำให้ราคาสินค้าอาหารเพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน ประชาชนลาวได้รับความเดือดร้อนจากภาวะเงินเฟ้อในหลายด้าน ดังนี้

– ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น: ประชาชนต้องจ่ายเงินมากขึ้นในการซื้อสินค้าพื้นฐาน เช่น อาหาร น้ำมัน และยา ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเพิ่มขึ้น

– รายได้ไม่เพียงพอ: รายได้ของประชาชนไม่เพิ่มขึ้นตามราคาสินค้า ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนลดลง

– ภาวะหนี้สินเพิ่มขึ้น: ประชาชนต้องกู้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อให้พอใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้หนี้สินในครัวเรือนสูงขึ้น

การแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อในประเทศลาวสามารถทำได้โดย

  1. การเสริมสร้างนโยบายการเงินและการคลังที่เข้มแข็ง: รัฐบาลควรเพิ่มความเข้มแข็งในการบริหารจัดการการเงินและการคลัง เช่น การควบคุมการใช้จ่ายของรัฐและการจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การส่งเสริมการผลิตในประเทศ: รัฐบาลควรส่งเสริมการผลิตสินค้าในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้า
  3. การควบคุมราคา: รัฐบาลควรมีมาตรการในการควบคุมราคาสินค้าพื้นฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาสินค้าสูงเกินไป
  4. การสนับสนุนเกษตรกรและผู้ผลิตในท้องถิ่น: รัฐบาลควรให้การสนับสนุนทางด้านการเงินและเทคนิคแก่เกษตรกรและผู้ผลิตในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิต

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    หวยดีพลัส

สิ่งที่ต้องทำหากเปิดธุรกิจติดตั้งและขายแผงโซล่าเซลล์แล้วมีคู่แข่ง

การทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไร ก็มักจะมีคู่แข่งทั้งนั้น ขึ้นอยู่ว่าธุรกิจที่เราทำนั้นคนให้ความสนใจมากแค่ไหน ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีคนสนใจเยอะคู่แข่งก็จะเยอะตามไปด้วย

ดังนั้นในบทความนี้จะพูดถึงการทำธุรกิจติดตั้งและขายแผงโซล่าเซลล์แล้วมีคู่แข่งเราควรจะทำอย่างไรเพื่อให้กิจการของเราสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ขายสินค้าได้นำหน้าคู่แข่ง

สิ่งที่ควรคำนึงถึงและดำเนินการเพื่อแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่:

  1. การวิเคราะห์คู่แข่ง: ศึกษาคู่แข่งในพื้นที่เป้าหมายว่าใครเป็นคู่แข่งหลัก และพวกเขามีกลยุทธ์และข้อเสนอใดบ้างที่ดึงดูดลูกค้า การวิเคราะห์นี้จะช่วยให้ทราบจุดแข็งและจุดอ่อนของคู่แข่ง
  2. การสร้างความแตกต่าง (Unique Selling Proposition, USP): สร้างจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น บริการติดตั้งที่รวดเร็ว การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การรับประกันที่ยาวนาน หรือการให้คำปรึกษาด้านพลังงานที่ครอบคลุม
  3. การพัฒนาคุณภาพบริการ: เน้นการให้บริการที่มีคุณภาพสูง ทั้งก่อนการขาย ระหว่างการติดตั้ง และบริการหลังการขาย การมีทีมงานที่มีความรู้และประสบการณ์สูงจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
  4. การจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ: เลือกใช้แผงโซล่าเซลล์และอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง และมีการรับประกันที่ดี การจัดหาผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ จะช่วยสร้างความน่าสนใจ
  5. การตลาดที่มีประสิทธิภาพ: ใช้สื่อออนไลน์และออฟไลน์ในการโปรโมตธุรกิจ เช่น การใช้โซเชียลมีเดีย การสร้างเว็บไซต์ที่ดี และการทำ SEO เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นพบธุรกิจได้ง่าย
  6. การสร้างเครือข่ายและพันธมิตร: สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จัดหาและพันธมิตรทางธุรกิจ การเข้าร่วมองค์กรหรือสมาคมที่เกี่ยวข้องกับพลังงานแสงอาทิตย์สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ
  7. การนำเสนอบริการเสริม: เสนอแพคเกจการบริการเพิ่มเติม เช่น การบำรุงรักษา การตรวจสอบประสิทธิภาพ การให้คำปรึกษาด้านการประหยัดพลังงาน เป็นต้น
  8. การใช้โปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษ: การเสนอโปรโมชั่นส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษสามารถช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่า
  9. การรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า: รับฟังและตอบสนองความคิดเห็นจากลูกค้าเพื่อนำไปปรับปรุงบริการ การมีความยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ
  10. การติดตามแนวโน้มและเทคโนโลยีใหม่ๆ: คอยติดตามและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในธุรกิจ เช่น แผงโซล่าเซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น การจัดเก็บพลังงานที่ดีขึ้น หรือการใช้ระบบการจัดการพลังงานที่ทันสมัย

โดยรวมแล้ว การที่คุณมีแผนการดำเนินงานที่ดี มีการวิเคราะห์ตลาดและคู่แข่งอย่างละเอียด และมีการพัฒนาบริการที่มีคุณภาพ จะช่วยให้คุณมีโอกาสที่ดีในการแข่งขันในธุรกิจนี้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    v9bet

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับทองคำ 

ทองคำมีความบริสุทธิ์หลายระดับ แต่ระดับที่มักนิยมใช้ในการลงทุนและสามารถขายออกได้ราคาดีที่สุดคือทองคำที่มีความบริสุทธิ์สูงที่สุด โดยทั่วไปทองคำบริสุทธิ์มีการวัดค่าเป็นเปอร์เซ็นต์

ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับทองคำ  หรือเป็นสัดส่วนของทองคำบริสุทธิ์ต่อเนื้อทองทั้งหมด เช่น 99.99% (หรือเรียกว่าทอง 24 กะรัต) ซึ่งมีเหตุผลที่ควรเลือกซื้อทองคำบริสุทธิ์สูงดังนี้

  1. การยอมรับทั่วโลก:ทองคำที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% (24 กะรัต) ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้สามารถขายออกได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ
  2. การประเมินราคา: ทองคำบริสุทธิ์สูงจะถูกประเมินราคาได้ใกล้เคียงกับราคาตลาดทองคำในปัจจุบันมากที่สุด ทำให้คุณได้ราคาดีเมื่อต้องการขายคืน
  3. ไม่มีส่วนผสมอื่น:ทองคำบริสุทธิ์สูงมีปริมาณทองคำที่แท้จริงมากที่สุดและไม่มีส่วนผสมอื่น ๆ ทำให้ไม่มีการสูญเสียคุณค่าเมื่อเวลาผ่านไป
  4. ความเสถียรของราคา:ทองคำบริสุทธิ์สูงมีความเสถียรของราคามากกว่าและมีความต้องการสูงในตลาด ทำให้มีความมั่นคงในการลงทุน

 

ระดับความบริสุทธิ์ของทองคำทั่วไป

– 24 กะรัต (99.99% ทองคำ): ทองคำบริสุทธิ์ที่สุดและเป็นที่นิยมในการลงทุน

– 22 กะรัต (ประมาณ 91.6% ทองคำ): มีการผสมโลหะอื่นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความแข็งแรง

– 18 กะรัต (ประมาณ 75% ทองคำ): ผสมโลหะอื่นมากขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนทาน แต่ไม่เหมาะสำหรับการลงทุนเท่ากับทองคำบริสุทธิ์

หากวัตถุประสงค์หลักของคุณคือการลงทุนเพื่อขายออกในอนาคต การเลือกซื้อทองคำที่มีความบริสุทธิ์สูงสุด (เช่น ทองคำ 24 กะรัต หรือ 99.99%) จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

ราคาทองคำในแต่ละประเทศมีการกำหนดและอ้างอิงจากหลายปัจจัย แต่หลัก ๆ แล้วมีปัจจัยที่สำคัญดังนี้

  1. ตลาดทองคำโลก:ราคาทองคำในตลาดโลกถูกกำหนดโดยตลาดทองคำหลัก ๆ เช่น London Bullion Market (LBMA), New York Mercantile Exchange (NYMEX), และ Shanghai Gold Exchange (SGE) ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายทองคำระดับโลก
  2. อุปสงค์และอุปทาน:ความต้องการทองคำจากภาคอุตสาหกรรม, การลงทุน, และเครื่องประดับ รวมถึงปริมาณทองคำที่ถูกผลิตและเสนอขายในตลาด
  3. ค่าเงิน: การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีผลต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำมักซื้อขายในหน่วยเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) การแข็งค่าหรืออ่อนค่าของสกุลเงินจะมีผลต่อราคาทองคำในสกุลเงินอื่น
  4. ปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง:เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง เช่น ภาวะสงคราม, วิกฤตเศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย, และนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ล้วนมีผลต่อความต้องการลงทุนในทองคำ

 

ผู้มีบทบาทในการกำหนดราคาทองคำ
  1. ตลาดทองคำท้องถิ่น:

   – ในแต่ละประเทศมีตลาดทองคำท้องถิ่นที่กำหนดราคาทองคำโดยอ้างอิงจากราคาตลาดทองคำโลก ตัวอย่างเช่น:

     – สมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทย: กำหนดราคาทองคำในประเทศไทย โดยอ้างอิงจากราคาทองคำในตลาดโลกและปรับตามอัตราแลกเปลี่ยน

  1. ผู้ประกอบการค้าทองคำ:

   – บริษัทหรือร้านค้าทองคำที่ทำหน้าที่ซื้อขายทองคำให้กับประชาชน โดยจะใช้ราคาที่ประกาศจากตลาดทองคำท้องถิ่นในการกำหนดราคาซื้อขายทองคำในแต่ละวัน

ดังนั้นหากใครที่กำลังอยากจะหารายได้จากการซื้อขายทองคำ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทองให้ละเอียดก่อนการลงทุน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    aesexy

แรงงานเขมรต้องตกงาน เพราะการกระทำของตัวเอง 

  

หลังจากที่ ฮุนเซน ออกมาพูดจากปากของตนเองในการเตรียมพร้อมการจัดกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศเขมรว่าตนเองเป็นผู้ตั้งใจเสี้ยมให้คนไทยกับคนเขมรทะเลาะกันเรื่องกุมขแมร์

  ซึ่งการเสี้ยมให้คนทั้งสองชาติทะเลาะกันในเรื่องวัฒนธรรมที่ไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของคนไทยเลยแถมยังตีหน้ามึนบอกว่าเป็นเรื่องปกติของคนเขมรแล้วเข้าใจว่าผู้นำไทยหรือรัฐบาลไทยคงไม่นำเรื่องนี้มาถือสาตนเอง

   ฮุนเซนมองว่าเป็นปกติของการเตรียมเลือกตั้งทั่วไปประเทศไทยอยู่ในช่วงการเตรียมเลือกตั้งเหมือนกันคงไม่มีใครมาสนใจในประเด็นนี้   แต่ ฮุนเซนกับคาดการณ์ผิดไปอย่างมากเพราะลืมนึกถึงไปว่าประเทศไทยนั้นปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยไม่เหมือนกับคอมมิวนิสต์แบบลาวหรือปกครองแบบอำนาจมืดเหมือนเขมร

คนที่สามารถตัดสินใจได้เองก็คือเจ้าของกิจการที่เป็นภาคเอกชนในไทยแม้แต่โครงการต่างๆของรัฐบาลทั้งงานก่อสร้างการทำถนนหรือธุรกิจโรงงานต่างๆรัฐบาล

ก็ต้องจ้างบริษัทของภาคเอกชนมาผลิตและสร้างให้ทั้งนั้นผลที่ตามมาก็คือกระทรวงแรงงานไทยประกาศกวดขันคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมายแต่คนที่มีอำนาจเด็ดขาดที่ส่งแรงงานเขมรกลับบ้านเป็นจำนวนมาก ทั้งมาแบบถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายก็คือเจ้าของกิจการคนไทยทั้งนั้นไม่ใช่รัฐบาล

 ทำให้มีแรงงานชาวเขมรจำนวนมากถูกเลิกจ้างแบบฟ้าแลบในทันทีด้วยเหตุผลก็คือไม่เอาแล้วไม่อยากได้แรงงานเขมรแล้วอยากได้แรงงานเมียนมาร์มากกว่าสุดท้ายแรงงานเขมรจำนวนมากก็ต้องกลับไปขอความช่วยเหลือต่อสถานทูตเขมรประจำประเทศไทยให้หาทางช่วยเหลือ 

และสุดท้ายมันก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรที่รัฐบาลไทยจะช่วยเหลือแรงงานเขมรตามที่ธูปเขมรมาขอความช่วยเหลือได้

เพราะอำนาจการไม่รับแรงงานเขมรก็คือเจ้าของผู้ประกอบการที่เป็นเอกชนของไทยเราจึงได้เห็นภาพและงานเขมรจำนวนมากมายมหาศาลเริ่มทยอยเก็บข้าวเก็บของออกจากแผ่นดินไทยเพื่อกลับบ้านที่เขมรตามแนวชายแดนจำนวนมากหลายคนบ่นตัดพ้อว่ากับเขมร

ก็คงลำบากเพราะไม่มีงานทำแถมมีรายได้ไม่พอยาไส้คนในครอบครัวและมองไม่เห็นอนาคตที่จะสามารถสร้างรายได้ให้มั่นคงได้ 

  อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของมวยกุมขแมร์เท่านั้นที่กำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้แต่เขมรยังคงมีปัญหากับประเทศไทยอีกหลายอย่างทั้งเรื่องของวัฒนธรรมอาหารการกินต่างๆที่ชาวเขมรอ้างว่าคนไทยนั้นแอบอ้างเอาวัฒนธรรมของชาวเขมรไป

ซึ่งปัญหาต่างๆเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ชาวเขมรต้องตกงานเพราะคนไทยจะไม่ยอมนิ่งเฉยต่อการะกระทำของชาวเขมรอีกต่อไป 

 

สนับสนุนโดย    เว็บหวยดี

เมื่อวัตถุดิบแพงขึ้นบุฟเฟ่ต์เจ้าดังก็มีการปรับเพิ่มราคามากขึ้น

ผลกระทบจากปัญหาสินค้ามีการปรับราคาสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไป  เมื่อวัตถุดิบแพงขึ้  ที่ต้องมีการซื้อวัตถุดิบเพื่อใช้ในการปรุงอาหารกินเองในครัวเรือนหรือแม้แต่ผู้ประกอบการร้านอาหารเองก็ต้องมีการซื้อวัตถุดิบในราคาแพงเมื่อเพื่อมาปรุงอาหารขายให้กับลูกค้าดังนั้นจึงต้องมีการปรับราคาค่าอาหารเพิ่มมากขึ้นหรือบางร้านอาจจะเริ่มมีการคิดค่าอาหารในราคาเท่าเดิมแต่ลดปริมาณจำนวนอาหารลงมา

        อย่างไรก็ตามล่าสุดได้มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของร้านบุฟเฟ่ต์เจ้าดังๆหลายเจ้าที่ได้มีการปรับราคาเพิ่มมากขึ้นซึ่งในวันนี้เราจะมาดูแต่ละร้านว่ามีการเพิ่มราคาสูงมากขึ้นกว่าเดิมมากแค่ไหน  โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมานั้นจะเห็นได้ว่าถ้าหากใครได้ไปกินอาหารบุฟเฟ่ต์ตามร้านต่างๆจะพบว่าราคาค่าบุฟเฟ่ต์นั้นมีการปรับเพิ่มมากยิ่งขึ้นซึ่งแต่ละร้านนั้นก็จะมีการปรับเพิ่มที่แตกต่างกันออกไปในเรื่องของตัวราคาดังนั้นวันนี้เราจะมาเปรียบเทียบของแต่ละร้านกันดู่

           ร้าน ณ คลองวาฬ  วิภาวดีฯ  20   สำหรับร้านนี้เปิดขายอาหารบุฟเฟ่ต์ประเภทอาหารซีฟู้ดส่วนใหญ่ซึ่งแน่นอนว่ามีลูกค้าติดใจในรสชาติของน้ำจิ้มและรสชาติของซีฟู้ดที่ยังสดทำให้ร้านบุฟเฟต์แห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากซึ่งทางร้านเองก็ได้มีการออกโปรโมชั่นกินได้ไม่จำกัดในระยะเวลา 2 ชั่วโมงโดยมีการคิดค่าบริการผู้ใหญ่ในราคา 899 บาทและเด็กในราคา 400 บาทส่วนเด็กที่มีความสูงต่ำกว่า 110 เซนติเมตรเป็นต้นไปจะคิดราคา 150 บาท

          โดยราคาที่กล่าวมาข้างต้นนี้เป็นราคาต่อคนอย่างไรก็ตามเมื่อเศรษฐกิจมีการปรับเพิ่มราคาเรื่องของวัตถุดิบสินค้าที่เป็นวัตถุดิบที่จะถูกนำมาใช้ในการประกอบอาหารของร้านบุฟเฟ่ต์นี้จึงได้มีการปรับราคาเพิ่มมากขึ้นโดยมีการเปลี่ยนราคาของผู้ใหญ่มาเป็น 999 บาทในขณะที่ ราคาของเด็กนั้นยังคงคิดราคาคงที่ 

         สำหรับร้านบุฟเฟ่ต์ Momo Paradise ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์ชาบูประเภทชาบูญี่ปุ่นนั้นก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่มีการคิดเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ค่าหัวต่อคนซึ่งข้อมูลเดิมนั้นหากเป็นผู้ใหญ่มากินก็จะคิดหัวละ 560 บาทแต่ถ้าหากเป็นเด็กซึ่งมีความสูงไม่เกิน 140 cm ก็จะคิดค่าหัวคนละ 279 บาท  ufabet   อย่างไรก็ตามเมื่อสินค้าแพงขึ้นก็มีการปรับเพิ่มราคาจากผู้ใหญ่ก็เพิ่มมาเป็น 599 บาทส่วนเด็กนั้นก็ถูกปรับเพิ่มมาเป็น 299 บาทก็ถือว่าการปรับราคาของร้าน Momo Paradise นั้นไม่ได้เยอะมากยังสามารถที่จะยอมรับได้

         สำหรับร้านสุกี้ตี๋น้อยซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการคิดค่าบุฟเฟ่ต่อหัวสำหรับผู้ใหญ่นั้นคนละ 199 บาทและสำหรับเด็กนั้นคิด 99  บาท แต่เมื่อเข้ายุคข้าวยากหมากแพงก็มีการปรับเพิ่มราคาผู้ใหญ่เป็น 219 บาทในขณะที่เด็กคิดเป็น 109 บาท 

 

เอกชนหนีตายหันมาผลิตชุด ppe สู้ covid-19

ผลิตชุด ppe สู้ covid-19 ในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโควิด ธุรกิจเสื้อผ้าแบรนด์ไทยได้รับผลกระทบอย่างสาหัสสากรรจ์เป็นอย่างมากเลยทีเดียวเนื่องจากว่ามีการผลิตออกมาขายแต่ไม่มีลูกค้าที่จะมาซื้อจะเห็นได้จากว่าตามตลาดประตูน้ำหรือแม้แต่ตลาดโบ๊เบ๊ตลาดเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะรองรับลูกค้าชาวต่างชาติ

แต่พอมีการระบาดของไวรัสโควิตเข้ามานั้นชาวต่างชาติก็ไม่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในขณะเดียวกันเมื่อเจ้าของธุรกิจหวังพึ่งลูกค้าที่เป็นชาวไทยแต่ลูกค้าชาวไทยก็ไม่พากันออกมาจับจ่ายใช้สอยเช่นเดียวกัน

      ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเกรงว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิตและอีกส่วนหนึ่งก็คือมีปัญหาเรื่องของสถานภาพทางการเงิน   อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ทางเจ้าของธุรกิจขายเสื้อผ้าเจอวิกฤตอย่างหนักจึงได้มีการหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองหยุดผลิตเสื้อผ้าขายแล้วหันมาขายสิ่งที่จำเป็นในช่วงที่มีการระบาด covid ซึ่งหลายคนก็คงจะรู้ดีกันว่าในช่วงระบาด covid นั้นสิ่งที่ขาดแคลนมากที่สุดก็คือหน้ากากอนามัยและชุด ppe นั่นเอง   

           ดังนั้นเจ้าของธุรกิจจึงได้มีการเปลี่ยนจากการขายเสื้อผ้ามาขายหน้ากากอนามัยและผลิตหน้ากาก ppe ขายเพราะทุกวันนี้ทุกคนยังจำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัยโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์นั้นจะต้องใช้ทําหน้ากากอนามัยและชุด ppe เพราะชุด ppe นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สำหรับแพทย์ที่ดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิตเพียงเท่านั้น

แพทย์ที่รักษาโรคหรือไข้อื่นๆในโรงพยาบาลก็จำเป็นที่จะต้องสวมใส่ชุด ppe เช่นเดียวกันเพราะเราไม่รู้ว่าบุคคลที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลนั้นอาจจะมีการติดเชื้อไวรัสหรือไม่

       ดังนั้นการสวมใส่ชุด ppe จึงมีความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์อย่างยิ่งเพราะช่วยให้ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิตได้นั่นเอง  ทางเข้า ufabet   อย่างไรก็ตามสำหรับหน้ากากอนามัยและชุดพี่ๆนั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้แล้วจำเป็นต้องทิ้งไม่สามารถที่จะนำกลับมาใช้งานซ้ำได้ดังนั้นจึงมีการใช้งานในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะมากการที่ภาคเอกชนนี้ตายหันมาผลิตหน้ากากอนามัยและชุด ppe แทนการผลิตเสื้อผ้าในช่วงเวลานี้จึงส่งผลดีต่อเจ้าของธุรกิจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว  

     อย่างไรก็ตามก็จะมีข้อเสียเกี่ยวกับเรื่องของการผลิตชุด ppe เช่นเดียวกันเพราะเมื่อเจ้าของธุรกิจหยุดผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ไทยก็จะไม่มีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศซึ่งเมื่อหยุดผลิตการส่งออกไปต่างประเทศก็จะทำให้มีตลาดของประเทศอื่นๆเข้ามาแทรกแซงและในอนาคตมีความเสี่ยงสูงมากที่จะไม่สามารถขายสินค้าแบรนด์ไทยในตลาดต่างประเทศได้  ดังนั้นไทยจึงไม่ควรทิ้งการผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ไทยและควรเร่งผลักดันการส่งออกเหมือนเดิมก่อนที่จะสูญเสียตลาดการส่งออกไป 

ผลพวงของโควิชทำให้ตลาดที่เคยคึกคักกลายเป็นตลาดที่เงียบเหงา

ผลพวงของโควิช เมื่อไม่นานมานี้ได้มีคนโพสต์ภาพตลาดนัดตะวันนาลงใน Application   tiktok

โดยมีการลงเอาไว้เมื่อประมาณวันที่ 11 เดือนมิถุนายนปีพ.ศ.2564  โดยรับภาพที่ลงนั้นเป็นภาพของคลิปวีดีโอที่ถ่ายสถานที่ในตลาดตะวันนาโดยจะเห็นได้ว่าปกติแล้วตลาดตะวันนานั้นจะมีร้านค้ามากมายเต็มไปหมดที่นำสินค้ามาวางขายห้องต่างๆ

จะถูกแม่ค้าและพ่อค้าทำการเช่าเพื่อขายสินค้าและในช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืนตลาดตะวันนาก็จะคึกคักไปด้วยผู้คนที่พากันเดินจับจ่ายใช้สอยซื้อของบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายก็จะยิ้มหน้าบานเมื่อมีลูกค้ามาซื้อสินค้าของร้านค้าตนเอง

       แต่ในขณะนี้ภาพใน Application  tiktok จะเห็นได้ว่าตลาดตะวันนาที่เคยมีผู้คนเต็มไปหมดนั้นในขณะนี้ร้างลาไปด้วยผู้คนแทบจะไม่มีคนเดินที่ตลาดเลยพร้อมกันนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่เคยเช่าแผงในตลาดตะวันนา

เพื่อวางขายสินค้านั้นก็ไม่มีอีกต่อไปร้านค้าปิดกิจการไปแล้วหลายร้านทำให้เห็นได้ว่าตลาดตะวันนานั้นเจอพิษเศรษฐกิจอย่างหนักและไม่สามารถที่จะกลับมาคึกคักได้แล้วในตอนนี้ 

        อย่างไรก็ตามในตอนนี้ปัญหาตลาดไม่มีคนเดินนั้นไม่ใช่เพียงแค่ตลาดที่ตะวันนาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ตลาดทุกตลาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในกรุงเทพฯกลับร้างไปด้วยผู้คน  ส่วนหนึ่งนั่นก็เพราะว่ามีข่าวเกี่ยวกับตลาดมีคนติดเชื้อไวรัสโควิตเยอะทำให้ผู้คนนั้นหวาดกลัวจึงไม่พากันออกมาเดินซื้อของที่ตลาดในขณะเดียวกันหลายคนก็มีปัญหาด้านการเงินเพราะต้องมีการจำกัดการใช้งานและไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยในตอนนี้

        ดังนั้นในช่วงเวลานี้หลายคนจึงต้องประหยัดด้วยการงดออกมาเดินตลาดเพื่อเป็นการเซฟค่าใช้จ่ายของตนเองเอาไว้ใช้ในยามที่จำเป็นเพราะหลายคนมองว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิตนั้นไม่รู้ว่าจะสามารถแก้ไขได้ตอนไหนเพราะในขณะนี้หวังเพียงพึ่งวัคซีนป้องกัน covid แต่วัคซีนที่ประเทศไทยได้มานั้นก็ไม่เพียงพอกับปริมาณจำนวนของประชากรในประเทศไทย

      นอกจากนี้วัคซีนที่ได้มาก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส covid ได้ทําได้เพียงแค่ทุเลาอาการหากมีการติดเชื้อไวรัสโควิตเพียงเท่านั้นจึงทำให้ไม่สามารถไว้วางใจได้ว่าในอนาคตไวรัสโควิชจะสามารถควบคุมได้หรือจะควบคุมได้นานเท่าไหร่และอาจจะมีการระบาดกลับมาอีกครั้งหนึ่งก็เป็นไปได้ดังนั้นทางที่ดีที่สุดทุกคนจึงต้องประหยัดเงินเอาไว้ใช้ยามจำเป็นและยามฉุกเฉิน 

  และเมื่อประชาชนมีแนวความคิดที่จะไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยก็ทำให้ตลาดที่ขายพวกกระเป๋าเสื้อผ้ากลายเป็นตลาดร้างทันทีเพราะไม่มีคนเดินซื้อของนั่นเอง 

 

 สนับสนุนโดย.    gclub ฟรีสปิน